Warning: file_get_contents(http://graph.facebook.com/?id=http://wci.co.th/article/Money/196/5-%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81): failed to open stream: HTTP request failed! HTTP/1.1 400 Bad Request in /home/wci/domains/wci.co.th/public_html/blog-detail.php on line 78 5 ขั้นตอน วางแผนการเงินเพื่อการศึกษาลูก - วางแผนทางการเงิน : Wealth Creation
Blog
ติดตาม Wealth Creation

1. เลือกแนวทางการศึกษาให้ชัดเจน
สถานศึกษาในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ แต่ละแห่งจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ หรือการส่งไปเรียนต่างประเทศ ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องเริ่มจากการค้นหาข้อมูลสถานศึกษา หลักสูตร ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง สภาพแวดล้อมและความสะดวกในการเดินทาง โดยควรเลือกสถาบันการศึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานภาพทางการเงินของครอบครัว

 

2. ประมาณการค่าใช้จ่าย
ต้องตั้งเป้าหมายว่าจะส่งลูกเรียนถึงระดับไหน หลักสูตรอะไร เพื่อจะได้ประมาณค่าใช้จ่ายตลอดทั้งหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นค่าเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเสื้อผ้า ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อช่วยให้สามารถออมเงินให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของลูก และต้องบวกเงินเฟ้อที่ทำให้ค่าใช้จ่ายเหล่านี้สูงขึ้น

 

3.สร้างกองทุนการศึกษา
ค่าใช้จ่ายสำหรับบุตรตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับปริญญาตรีมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ พ่อแม่ควรวางแผนการออมเงินล่วงหน้าเพื่อเป็นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

โดยแบ่งเงินออม เป็น 3 ส่วน ระยะสั้น-ระยะกลาง-ระยะยาว

เลือกกระจายการลงทุนทั้งในเงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น และกองทุนรวม เพื่อให้ได้ผลตอบแทนในการออมที่เพิ่มมากขึ้น ลดความเสี่ยง และสามารถดึงเงินออกมาใช้จ่ายได้ในทุกช่วงเวลา

 

4. สร้างหลักประกัน
สิ่งที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ทำ คือการเปิดบัญชีเงินฝาก หรือกองทุนรวม และเก็บเงินสะสมให้ลูก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ พ่อแม่ ซึ่งเป็นคนเก็บออมเงิน อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน หากพ่อแม่ประสบเหตุไม่คาดฝัน เท่ากับว่าจะส่งผลกระทบถึงแผนการศึกษาของลูก ดังนั้นการทำประกันชีวิตจะช่วยลดความเสี่ยง โดยเลือกทำประกันที่มีความคุ้มครองเท่ากับค่าใช้จ่ายจนจบแผนที่วางไว้

 

5. มีเงินสำรองสภาพคล่อง
คุณพ่อคุณแม่ควรกันเงินสำรองสภาพคล่องเผื่อฉุกเฉินไว้ก้อนหนึ่ง เก็บไว้ในเงินฝาก หรือบัญชีที่มีสภาพคล่องสูง ถ้าเกิดต้องการใช้เงินเร่งด่วน เช่นลูกป่วย พ่อแม่ตกงานหรือรายได้สะดุด ก็ยังมีเงินส่วนนี้ไว้ใช้จ่าย เพราะถ้าไม่มีเงินส่วนนี้ อาจจะต้องไปดึงเงินจากกองทุนการศึกษาของลูก ซึ่งอาจจะทำให้แผนการศึกษาไม่เป็นไปตามที่วางไว้ก้ได้

 

การวางแผนการศึกษา เป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรเริ่มการวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะได้มั่นใจได้ว่าลูกของท่านจะมีอนาคตทางการศึกษาที่ดีตามที่คุณวางแผนไว้

 

by Bird Teerapat (Wealth Strategist) - WCI

---------------------------
แบ่งปันความมั่งคั่งอย่างมั่นคงโดย
Wealth Creation
www.wci.co.th/blog
www.facebook.com/wealthcreationpage

Pitiphong Roongruengvuthikul
Admin
By