Warning: file_get_contents(http://graph.facebook.com/?id=http://wci.co.th/article/Wealth/63/11-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%8B-..%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7!): failed to open stream: HTTP request failed! HTTP/1.1 400 Bad Request in /home/wci/domains/wci.co.th/public_html/blog-detail.php on line 78 11 นิสัยที่คนสำเร็จเห็นแล้วร้องอี๋ ..อย่าได้ทำเชียว! - วางแผนทางการเงิน : Wealth Creation
Blog
ติดตาม Wealth Creation

1. กำหนดคำนิยามความสำเร็จด้วยตัวเงิน

มีแต่ทัศนคติของคนที่ขาดแคลนและขาดแรงบันดาลใจเท่านั้นที่จะตั้งเป้าหมายเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว คนที่มุ่งมั่นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มักจะมองข้ามเรื่องเงิน เพราะคำถามที่เขาโฟกัสมักจะมีอยู่อย่างเดียว คือ เราจะช่วยเหลือคนอื่นได้ในทางไหนบ้าง?!

2. ใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยไม่วางแผน

โดยทั่วไปในหนึ่งวันของเราทุกคนมักจะมีเรื่องยุ่งๆ ให้จัดการอยู่เสมอ และคนสำเร็จแทบทุกคนก็จะพยายามทำทุกวิถีทางในการจัดการเรื่องสำคัญให้สำเร็จเสร็จสิ้นไม่มีติดค้าง ซึ่งนั่นหมายความว่ามีอีกหลายรายการที่ต้องต่อสู้กัน.. ข้าก่อนเอ็งหลัง! อะไรทำนองนี้ คงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพบนชีวิตที่ยุ่งเหยิงเช่นนั้นหากเราไม่เข้าไปจัดการ

3. จมอยู่กับความผิดพลาดและมองปัญหาในแง่ลบ

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยกับชีวิตการทำงานที่สวยหรู ง่ายไปซะหมดทุกอย่างเนี่ย สิ่งที่เราเจอจริงๆ ก็คือ เหนื่อย ล้า ยุ่ง ยาก เซ็ง ..ฉะนั้นถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะหาวิธีจัดการกับสิ่งเหล่านี้ ชีวิตเราก็แทบจะไม่ได้อะไรเลย คงไม่ได้เติบโตเลย เพราะการเมินเฉยเรื่องพวกนี้เท่ากับว่าคุณเมินเฉยต่อสิ่งที่ต้องเจอใน 80% ของการทำงาน คุณกำลังจะบอกว่าตัวเองเกลียดและทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เรียกว่าแทบจะเป็น 80% ของชีวิตด้วยเลยอย่างนั้นแหละ แล้วอย่างนี้ตัวเราเองจะเติบโตไปได้ยังไงถ้าไม่ฝึกที่จะเรียนรู้จากปัญหาและความผิดพลาดเหล่านี้

4. สนใจคำตัดสินใจคนอื่นจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

คำแก้ตัวไม่ใช่สิ่งที่คนมีจุดยืนเขาเลือกใช้กัน มันแสดงถึงความอ่อนแอที่พยายามจะปกป้องตัวเองจากความผิดพลาดเอาไว้ต่างหากล่ะ ไม่มีใครเกิดมาภายใต้อุ้งเท้าหรืออุ้งมือของใคร เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกและตัดสินใจ มีสิทธิ์ที่จะผิดและพลาด ขออย่างเดียวคือเราต้องรับผิดชอบกับทุกสิ่งที่เราเลือก คนที่มีความรับผิดชอบต่างหากล่ะที่โลกมองหา

5. รังเกียจการสนับสนุนและการยินดีกับทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งของตัวเองและผู้อื่น

การกระทำเช่นนี้แสดงถึงทัศนคติที่คุณมี หากคุณชอบพอกับความสำเร็จ คุณก็จะยืนดีกับมันทุกครั้งที่เกิดขึ้น ซึ่งมันจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่หากว่าคุณใช้เวลาไปกับความอิจฉาริษยา มันก็บอกได้เลยว่าเบื้องลึกคุณอ่ะเกลียดความสำเร็จ และก็ยังรู้สึกว่าตัวเองนั้นต่ำต้อยอีกด้วย เลยต้องพยายามกดคนอื่นให้ต่ำลงด้วยคำพูดหรือความคิด ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีที่คนสำเร็จอยากจะทำเลยครับ

6. ละเลยความสัมพันธ์

ความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยส่งเสริมเรา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญซะด้วย ..ใครก็ตามที่มองข้ามเรื่องของความสัมพันธ์นั้นเท่ากับว่าเขายินดีคล้องตัวเองไว้กับก้อนหินใหญ่ๆ หลายก้อน ตลอดเส้นทางการปีนเขาเลยล่ะครับ

7. มองข้ามความสนุก

เป็นเรื่องที่ยากมากที่คุณจะลงมือทำในสิ่งที่น่าเบื่อได้ติดต่อกันนานเป็นปีๆ หรือถ้าคุณทำได้ คุณเองก็จะมองว่ามันไม่มีคุณค่า ทำไปเพื่อแลกกับอะไรบางอย่างเพื่อชีวิตของตัวเองเท่านั้น เหมือนซอมบี้ และก็ไม่มีซอมบี้ที่ไหนที่จะมีไฟแห่งความมุ่งมั่นมากพอจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกหรอกครับ

8. ล่องลอย ขาดความชัดเจน

ชีวิตที่มีแรงผลักดันก็คือชีวิตที่มีแรงบันดาลใจ และการที่คุณจะมีแรงบันดาลใจได้ มันก็มาจากจุดมุ่งหมายของคุณเอง ความเด็ดขาดชัดเจนมันเป็นอะไรตรงข้ามกับความล่องลอยเป็นอย่างมาก ไม่มีคนสำเร็จคนไหนที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับความล่องลอยได้อย่างแน่นอน ก็คนที่ขาดความมุ่งมั่นในชีวิตเขายังไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องการและต้องทำอะไร แล้วอย่างนี้มันจะพบเจอกับความสำเร็จได้อย่างไรครับ?

9. ดีแต่พูด

คนสำเร็จพูดจริง ทำจริง เพราะคำพูดส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ การที่คุณจะทำอะไรสักอย่างแล้วไม่มีใครเชื่อถือหรือไว้ใจคุณเลย จะเป็นการยากมากที่คุณจะประสบความสำเร็จได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนสำเร็จทุกคนถึงได้ซีเรียสในเรื่องนี้มาก

10. เรียนรู้แค่ในเฉพาะห้องเรียน

ในเรื่องของการเรียนรู้ คำนิยามของห้องเรียนสำหรับคนธรรมดาและคนสำเร็จต่างกันนิดเดียว คนสำเร็จมองว่าชีวิตจริงคือห้องเรียน ในขณะที่คนธรรมดามองว่าห้องเรียนเป็นแค่สถานที่ และนั่นคือเหตุผลที่ชีวิตของคนสองกลุ่มถึงได้แตกต่างกันอย่างมหาศาล

11. ไม่รู้จักขอบคุณ

ความรู้สึกขอบคุณถือว่าเป็นการแสดงถึงความใส่ใจและเป็นการให้ความสำคัญกับสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามทำ คนสำเร็จไม่เคยอายหรือเกี่ยงที่จะกล่าวคำขอบคุณ เพราะเขารู้ดีว่าความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากตัวเขาเพียงคนเดียว เราต่างต้องช่วยเหลือกัน.. เรื่องนี้มองข้ามไม่ได้! และบางทีแค่คำขอบคุณเล็กๆ น้อยๆ ของเราเองก็สามารถเปลี่ยนชีวิตของใครบางคนได้เลยล่ะครับ

----------------------------
แบ่งปันความมั่งคั่งอย่างมั่นคงโดย
Wealth Creation
www.wci.co.th/blog.php
www.facebook.com/wealthcreationpage

Pitiphong Roongruengvuthikul
Admin
By