Warning: file_get_contents(http://graph.facebook.com/?id=http://wci.co.th/article/Money/284/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87!---%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD-LTF-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4-): failed to open stream: HTTP request failed! HTTP/1.1 400 Bad Request in /home/wci/domains/wci.co.th/public_html/blog-detail.php on line 78
หลายคนอยากออม อยากลงทุน อาจจะเห็นเพื่อนลงทุนในกองทุน LTF ผ่านมา ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี เลยอยากลงทุนในกองทุน LTF บ้าง โดยไม่รู้เงื่อนไขการลงทุน คิดว่าซื้อ LTF เกินสิทธิก็ไม่เป็นไร
LTF ไม่เหมือนประกันชีวิตที่สามารถซื้อเกินสิทธิได้
ตามเงื่อนไขการลงทุนในกองทุน LTF นั้น ไม่จำกัดเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่สามารถลงทุนได้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท โดยไม่ต้องรวมคำนวณวงเงินลงทุนกับกองทุน RMF และกองทุนอื่นๆ
เช่น มีเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีจำนวน 1 ล้านบาท สามารถลงทุนในกองทุน LTF ได้ 150,000 บาท
หากลงทุนในกองทุน LTF เกินจำนวนเงินที่มีสิทธิลงทุนได้ ส่วนเงินที่เกินสิทธินอกจากไม่สามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้แล้ว เมื่อขายคืนแล้วมีกำไร กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน (นับเฉพาะส่วนเงินลงทุนที่เกินสิทธิ) จะต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ด้วย เช่น มีเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีจำนวน 1 ล้านบาท สามารถลงทุนในกองทุน LTF ได้ 150,000 บาท แต่ลงทุนไป 200,000 บาท (เกินสิทธิจำนวน 50,000 บาท) เมื่อครบกำหนดขายคืน ได้รับเงินจำนวน 400,000 บาท มีกำไร 200,000 บาท เท่ากับว่ามีกำไรของเงินลงทุนส่วนเกินจำนวน 50,000 บาท ดังนั้นกำไรจากเงินลงทุนส่วนที่เกินสิทธิต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ด้วย
ดังนั้น ถ้าอยากลงทุนในกองทุนหุ้น มีกองทุนหุ้นอีกมากมายที่ผลตอบแทนดีๆ พอๆ กันและไม่ต้องยุ่งยากเรื่องเวลาถือครอง ผลตอบแทนที่ได้ก็ไม่ต้องเสียภาษีด้วย หรือถ้าต้องการเก็บออมระยะยาวก็ลงทุนในกองทุน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นแทน นอกจากได้ผลตอบแทนดีๆแล้วยังเอามาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
by Bird Teerapat - Wealth Strategist (WCI)
---------------------------
แบ่งปันความมั่งคั่งอย่างมั่นคงโดย
Wealth Creation
www.wci.co.th/blog
www.facebook.com/wealthcreationpage