1. คุณเชื่อว่าความมั่งคั่งร่ำรวยไม่ใช่ของคุณ

ไม่คิดว่านั่นควรจะเป็นสิทธิที่คุณควรจะได้ หรือมองว่ามันไม่ได้เหมาะสมกับตัวเราสักนิดเลย ซึ่งมีหลายคนบอกว่ามันสมเหตุสมผลแล้วเพราะใจรู้สึกท้อถอยมากกับการไล่ล่าความฝัน แต่ก็อย่างที่เคยพูดเอาไว้ครับ "ไม่มีจริงหรอก เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ" ทุกอย่างมันยากทั้งนั้น ท้อได้แต่ขออย่างเดียวคืออย่ายอมแพ้ เดินหน้าต่อไปด้วยความเชื่อที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคำว่า "เราทำได้" และสักวันหนึ่ง โอกาสนั้นจะเป็นของเรา ครับ

2. คุณคิดว่าตัวเองยังเก่งไม่พอที่จะไขว่ขว้าความมั่งคั่งเอาไว้

ซึ่งนั่นไม่ใช่ทัศนคติที่ส่งเสริมเราได้แม้แต่นิดเดียวเลยครับ หากวันนี้คุณยังไม่เก่ง แต่ผมเชื่อว่าวันหน้าคุณจะเก่งขึ้น และสักวันหนึ่งคุณจะต้องทำได้ เพราะเราจะพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอจนคู่ควรกับความมั่งคั่งร่ำรวย และสามารถให้คุณค่าอันมากมายแก่โลกใบนี้ที่เราอยู่ได้ 

3. คุณยังอยากไม่มากพอ หรือในอีกมุมหนึ่งคือ ความทะเยอทะยานของคุณมันยังน้อยเกินไป

ความทะเยอทะยานไม่ใช่เรื่องแย่นะครับ เป็นเรื่องที่ดีซะด้วยซ้ำ เพราะถ้ามนุษย์เราขาดความทะเยอทะยาน โลกของเราก็จะขาดความก้าวหน้า และคงไม่ได้มีสิ่งของต่างๆ มากมายอย่างที่พวกเราใช้อยู่ในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้มันต้องอยู่ในความพอดีครับ คุณต้องทะเยอทะยานในระดับที่ทำให้คุณกระหายที่จะทำสิ่งใหม่ มองหาโอกาส สร้างความก้าวหน้า แต่ก็ไม่ล้ำเส้นของความพอดีด้วยการไปเบียดเบียนหรือแย่งของของใครมา ถ้าความทะเยอทะยานของคุณไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ทำไปเลยครับ เพราะความทะเยอทะยานของคุณในตอนนั้นกำลังช่วยชีวิตโลกอยู่

4. คุณตั้งใจเก็บเงินมากกว่าการเพิ่มช่องทางรายได้

เรียกว่าเขียมแล้วเขียมอีกจนวันๆ แทบจะไม่กินอะไร ซึ่งอันนี้มันไม่ดีนะครับ ผิดเลยหล่ะ เพราะคุณกำลังตั้งจิตให้ตัวเองเข้าใจว่า ความมั่งคั่ง คือ ความขาดแคลน ซึ่งมันตรงข้ามกันเลย!.. อยากใช้ชีวิตแบบไหน ใช้ไป! แต่ต้องสมฐานะด้วย และที่สำคัญคุณต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยับขยายหรือเพิ่มรายได้ให้ตัวเองอยู่เสมอเพื่อให้ทันต่อความต้องการของรายจ่าย และที่สำคัญวางแผนการเงินล่วงหน้าเอาไว้เลย ทั้งหมดก็เพื่ออนาคตที่มั่นคงในระยะยาวนั่นเองครับ

5. คุณเชื่อว่าการทำงานหนัก คือ การทำงานให้นานขึ้น เพื่อที่จะได้ร่ำรวยมากขึ้น

ซึ่งมันโคตรตรงกันข้ามกับสูตรสำเร็จของความร่ำรวยเลย คุณต้องทำงานอยางฉลาดต่างหากล่ะครับ ชั่วโมงการทำงานไม่ได้การันตีความมั่งคั่งให้คุณเลย เพราะถ้าไม่งั้นก็แค่อดหลับอดนอนเพิ่มขึ้นนิดหน่อยทุกวัน รายได้ก็เพิ่มมหาศาลแล้วซิ ..มันใช่มั้ยล่ะครับ? ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับการจัดการกลยุทธ์และการบริหารเวลาชีวิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่างหากล่ะครับ ท่องไว้ครับ "เราจะทำงานอย่างชาญฉลาด"

6. คุณกังวลกับความล้มเหลวมากเกินไป และคิดว่าความล้มเหลวคือถาวร ส่วนความมั่งคั่งนั้นชั่วคราว

ซึ่งไม่จริงเลยครับ ทั้งความล้มเหลวและความมั่งคั่ง มันก็ชั่วคราวทั้งนั้นแหละ นั่นคือเหตุผลที่เราควรจะใช้ชีวิตให้สมดุล หาและใช้ให้เป็น เพื่อความสุขของตัวเองและคนรอบข้างนั่นเองครับ

7. คุณใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตไปกับคนที่ไม่ส่งเสริมความเชื่อของคุณ

ก็ต่อให้คุณเชื่อและรู้ดีว่า การสร้างความมั่งคั่ง นั้นต้องทำอะไรบ้าง แต่ถ้าวันๆ คุณเอาแต่ใช้ชีวิตไปกับคนขี้นินทา ขี้เกียจและขยันใช้เงิน ให้ตายคุณก็ไม่สามารถมั่งคั่งร่ำรวยขึ้นมาได้หรอกครับ

8. คุณมองว่า ความร่ำรวย เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้คุณต้องรู้สึกเช่นนั้น ผมตอบเลยว่า ไม่จริงครับ! ..มันจะดีกว่าไหมอ่ะถ้าคุณมั่งคั่งขึ้นแล้วมีคนอีกสิบคนร่ำรวยขึ้น ซึ่งจะทำให้ประเทศของเราเจริญก้าวหน้ามากขึ้น มันไม่ใช่การแข่งขัน แต่มันเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกันครับ ..ทุกอย่างมีสองด้านสองมุม ซึ่งมุมที่คุณเห็นอาจจะเป็นแค่เพียงด้านหนึ่งที่เกิดขึ้นจากคนที่ไม่ดีก็เท่านั้นเองครับ อย่าไปตัดสิน แต่ขอให้พิจารณาแล้วคิดดูว่า "มันคือความจริงทั้งหมด" ใช่หรือไม่? ..ถ้าใช่ โอกาสของความจริงนี้อยู่ตรงไหน? ..คือให้มองเฉพาะด้านที่มันส่งเสริมเราเท่านั้น ครั้งไหนคุณเห็นด้านที่ไม่ดี ก็เก็บไว้ อย่าไปตัดสิน และรอจนกว่าจะเจอข้อมูลที่ครบทุกด้าน ซึ่งคำว่าครบทุกด้านไม่ได้หมายความว่ามีหลายคนทำเหมือนกัน แต่หมายถึง "มีหลายคนซึ่งมีทัศนคติที่แตกต่างกัน" ทำเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มี ก็ขอให้เลือกเฉพาะอย่างที่มันส่งเสริมตัวของเราเองเท่านั้นครับ 

---------------------------- 
แบ่งปันความมั่งคั่งอย่างมั่นคงโดย
Wealth Creation
www.wci.co.th/blog.php
www.facebook.com/wealthcreationpage