หลายคนสงสัยว่า “ประกันช่วยสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยหรอเนี่ย?”

ผมคิดว่าประสบการณ์หรือทัศนคติที่หลายๆ คนมีต่อประกันอาจจะเรียกว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้งจากการที่มีตัวแทนประกันที่ชอบโทรมาตื้อ หรือเจ้าหน้าที่ธนาคารชอบชักชวนให้ซื้ออยู่นั่นแหละ พร่ำบอกอยู่ได้ว่ามันเป็นการออมเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก อีกทั้งหลายคนมองว่าการทำประกันเป็นภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายเบี้ยประกันไปเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าเงินไม่มีสภาพคล่อง จึงเลือกที่จะมองข้ามการทำประกันไป

แต่ผมขอให้อีกมุมมองหนึ่งครับว่า “ประกันชีวิตสามารถช่วยช่วยสร้างความมั่งคั่งได้ ถ้าเราเลือกแบบประกันที่ถูกต้องนะ”

ลองคิดตามผมนะครับว่า หากเราเป็นคนทำงานหารายได้หลักของบ้านที่ต้องดูแลพ่อ แม่ ลูก เมีย ณ ตอนนี้เรามีเพียงเงินฝาก 1 ล้าน อยู่ในธนาคาร ถ้าวันนี้เราจากไป สิ่งที่ครอบครัวจะได้รับก็มีเพียงเงินฝาก 1 ล้านในธนาคาร

แต่ถ้าเรารู้จักการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “ประกันชีวิต” แบบชั่วระยะเวลา หรือแบบควบการลงทุนเข้ามาช่วย เราสามารถใช้เงินเพียงแค่ปีละ 2-3%* จากเงินก้อน 1 ล้าน สร้างเงินก้อนเพิ่มอีก 3 ล้านให้ครอบครัวได้ในวันที่เราจากไป (*กรณีอายุไม่เกิน 35 ปี ถ้าอายุมากจะลดลงตามสัดส่วน)

ทำให้ ณ วันที่เราจากไป นอกจากเงินฝากธนาคาร แล้วยังมีเงินจากประกันชีวิตอีก ดังนั้นความมั่งคั่งของครอบครัว ก็จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 1 ล้านเป็น 4 ล้านทันที

2-3% ตรงนี้ ผมเชื่อว่าถ้าเราบริหารเงินเป็น เราสามารถเอาผลตอบแทนจากการบริหารมาจ่ายเพื่อสร้างความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นได้อย่างสบายๆ

ใช้เงินน้อยสร้างเงินก้อนใหญ่ หรือภาษาที่นักการเงินนิยมเรียกว่า “Leverage”

และอีกอย่างนะครับ ประกันชีวิตยังสามารถนำเบี้ยประกันไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ถึง 100,000 บาท สำหรับประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปอีกด้วยนะครับ

credit : Bird Teerapat (Wealth Strategist) - WCI 
https://www.facebook.com/bird.planner/?fref=ts

---------------------------
แบ่งปันความมั่งคั่งอย่างมั่นคงโดย
Wealth Creation
www.wci.co.th/blog
www.facebook.com/wealthcreationpage