"เราไม่ได้อยู่ในโลกที่ทุกอย่างเติบโตเป็นเส้นตรง แต่อยู่ภายใต้กฏการยกกำลังต่างหาก"
ผมเห็นด้วยกับคำพูดนี้ของ Peter Thiel (ผู้ร่วมก่อตั้ง Paypal) มากครับ
ถึงแม้ว่ากฏกระจายความเสี่ยงจะใช้ได้ดีในด้านการลงทุน แต่มันกลับไร้ประสิทธิภาพมากๆ เมื่อคุณนำมาประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นในชีวิต คนส่วนใหญ่ต้องการเป็นคนเก่งรอบด้าน หลายคนยอมเสียเวลาจำนวนมากไปกับการพัฒนาทักษะที่ตนไม่เก่ง
กลับกันในหมู่คนเก่ง.. พวกเขาตั้งใจเสียเวลาไปกับการพัฒนาทักษะที่เขาเก่งอยู่แล้วให้เก่งขึ้นไปอีก เพราะเขาต้องการเป็นหนึ่งในเรื่องๆ นั้นอย่างแท้จริง
เนี่ยละครับความแตกต่างของคนที่เข้าใจ/ไม่เข้าใจ เรื่อง "กฏการยกกำลัง"
"มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณทำอะไรได้บ้าง คนส่วนใหญ่เขาสนใจเฉพาะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้นแหละครับ"
"ตราบใดที่คุณทำสิ่งนั้นได้ดี มันไม่สำคัญหรอกครับว่าสิ่งที่คุณทำมันคืออะไร(ตราบใดที่มันถูกกฏหมายและศีลธรรม)"
หลายคนเข้าใจว่าโลกเราไม่เหลืออะไรใหม่แล้ว ทุกอย่างถูกคิดค้นและประดิษฐ์ขึ้นมาหมดแล้ว ..ผมกลับเห็นต่าง
"เปล่าเลย!.. โลกเราแค่กำลังขาดคนที่รู้ลึกรู้จริงในบางเรื่องที่ยังไม่ได้ถูกค้นพบต่างหาก"
กฏการยกกำลังมีพลังและคุณค่ามากพอที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในโลก แต่ผมคนเดียวคงทำไม่ได้ เพราะโลกใบนี้ไม่ใช่ของผม ..มันเป็นของพวกเราทุกคน.. โลกมีพื้นที่ว่างให้เราเสมอ แต่มันก็เป็นสิทธิให้เฉพาะกับคนที่เก่งจริงๆ เท่านั้นแหละครับ ..ความจริงข้อนี้ผมคงช่วยอะไรคุณได้ไม่มากไปกว่าการถามคุณว่า
"คุณอยากจะเป็นคนที่เก่งจริงๆ ในด้านที่คุณเลือกหรือเปล่าล่ะ?"
---------------------------
แบ่งปันความมั่งคั่งอย่างมั่นคงโดย
Wealth Creation
www.wci.co.th/blog
www.facebook.com/wealthcreationpage