Warning: file_get_contents(): php_network_getaddresses: getaddrinfo failed: Name or service not known in /home/wci/domains/wci.co.th/public_html/blog-detail.php on line 78 Warning: file_get_contents(http://graph.facebook.com/?id=http://wci.co.th/article/Wealth/190/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99): failed to open stream: php_network_getaddresses: getaddrinfo failed: Name or service not known in /home/wci/domains/wci.co.th/public_html/blog-detail.php on line 78 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนออกจากงาน - วางแผนทางการเงิน : Wealth Creation
Blog
ติดตาม Wealth Creation

เวลาออกจากงาน เราจะได้รับเงินก้อนจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เราและนายจ้างส่งเงินเข้ากองทุนทุกเดือน ส่วนจะได้ส่วนของนายจ้างเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับข้อบังคับของนายจ้าง ซึ่งตามกฎหมายถ้าไม่ได้ออกจากงานเพราะเหตุเสียชีวิต ทุพพลภาพ หรืออายุครบ 55 ปี เงินได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพถือเป็นเงินได้ที่จะต้องนำมาเสียภาษี ยิ่งถ้าเราทำงานมานาน มีเงินสะสมเยอะ และนายจ้างก็สมทบให้เยอะด้วย เงินก้อนตรงนี้ก็จะมีมูลค่ามากและทำให้ต้องเสียภาษีมากตามไปด้วย
 

แล้วมีวิธีการคำนวณภาษียังไง
 

สำหรับเงินได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จะต้องนำมาคำนวณภาษี ประกอบด้วย เงินสมทบ (นายจ้าง) ผลประโยชน์ของเงินสะสม (ดอกผลของเงินที่ลูกจ้างสะสม) และผลประโยชน์ของเงินสมทบ (ดอกผลของเงินที่นายจ้างสมทบ) ส่วนเงินสะสม (ลูกจ้าง)จะได้รับการยกเว้นภาษี
 

กรณีออกจากงานก่อนอายุ 55 ปี ถ้าระยะเวลาทำงานน้อยกว่า 5 ปี ต้องนำเงินได้ไปคำนวณภาษี รวมกับเงินได้อื่น เช่นเงินเดือน ค่าคอมมิชชั่น โบนัส ฯลฯ แต่ถ้าระยะเวลาทำงานเกิน 5 ปี สามารถใช้ใบแนบในการคำนวณภาษี ซึ่งจะมีสูตรในการคำนวณที่ให้สิทธิในการหักค่าใช้จ่ายตามระยะเวลาทำงาน
 

ถ้าไม่อยากเสียภาษี จะทำยังไงได้บ้าง
 

1. คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเดิม


เราสามารถขอคงเงินไว้ในกองทุนเดิมได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้เอาเงินออกมาก็ยังไม่ต้องเสียภาษี แต่ต้องดูว่าข้อบังคับกองทุนนั้นเปิดโอกาสให้สามารถคงเงินไว้ในกองทุนเดิมได้ภายในระยะเวลาเท่าใด ทั้งนี้การคงเงินไว้ทางผู้บริหารกองทุนจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการคงเงินไว้ และในระหว่างที่คงเงินไว้ เงินที่คงไว้ก็จะถูกนำไปลงทุนหาผลประโยชน์ตามปกติเหมือนเดิม

 

2. โอนเงินจากกองทุนเดิมมาออมต่อในกองทุนใหม่


หากนายจ้างใหม่มีการตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้พนักงาน สมาชิกสามารถขอโอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเดิมมาออมต่อในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของนายจ้างใหม่ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียภาษีเพราะสมาชิกไม่ได้รับเงินออกจากกองทุนแต่อย่างใด

 

3. โอนเงินจากกองทุนเดิมไปกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)


ถ้ากองทุนเดิมไม่ให้คงเงินไว้ หรือนายจ้างใหม่ไม่ได้มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เราสามารถโอนเงินจากกองทุนเดิมไปยังกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)แทนได้ ข้อดีของการโอนไปยัง RMF คือลูกจ้างมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น ทั้งนี้จำนวนเงินที่โอนย้ายมายัง RMF จะไม่สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ เพราะไม่ใช่การซื้อ RMF แล้วก็ไม่ใช่โอนย้ายไป RMF ได้ทุกกองนะ ต้องเช็คก่อนว่ากอง RMF ใดที่รองรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพบ้าง ที่ผมเห็นตอนนี้ก็มี RMF ของ บลจ.ทหารไทย

 

ดังนั้นก่อนที่จะลาออกจากงาน วางแผนให้รอบคอบ ก็สามารถประหยัดภาษีได้

---------------------------
แบ่งปันความมั่งคั่งอย่างมั่นคงโดย
Wealth Creation
www.wci.co.th/blog
www.facebook.com/wealthcreationpage

Pitiphong Roongruengvuthikul
Admin
By